เวปไซต์ Forex

www.forexfactory.com
    Forexfactory  คือ เว็บไซต์ปฏิทินที่รวบรวมข้อมูลของข่าวที่ส่งผลต่อค่าเงินต่างๆ ในตลาดโลก โดยจะส่งผลทำให้ค่าเงินเกิดความแปรปรวนมาก เราสามารถใช้ผลประโยชน์จาก ปฏิทินข่าวของค่าเงินได้ เพื่อป้องกันการสูญเสียของผลกระทบที่เกิดขึ้นจากข่าว หรือทำกำไรได้มากจากข่าวการเงินในปฏิทิน เพราะเมื่อการประกาศผลจากข่าวออกมาแล้ว ค่าเงินของตลาดโลกจะค่อนข้างแรงและแปรปรวนมาก โดย จะอธิบายวิธีการตั้งค่า ปฏิทิน และ วิธีการสังเกต เพื่อเป็นประโยชน์ของนักเทรดได้ดังนี้

วิธีการตั้งค่า
    ต้องทำการตั้งค่าเพื่อให้ข่าวของค่าเงิน ทุกค่าตรงกับเวลาในประเทศไทยดังต่อไปนี้


คลิกตรงหน่วยของเวลา เพื่อตั้ง Time Zone ให้ตรงกับเวลาของประเทศไทย Time Zone (GMT + 7:00)  
ซึ่งการตั้งค่าดังกล่าวจะทำให้เราเช็คข่าวสำคัญๆ ของตลาด Forex ได้ง่ายขึ้น โดยการตั้งค่าจะต้องตั้งตามภาพต่อไปนี้


ช่วงเวลาเปิดทำการของตลาด forex
    ตลาด Forex เป็นตลาดระดับสากลและเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในวันธรรมดาโดยมีช่วงเวลาในการเทรดของแต่ละภูมิภาค ดังต่อไปนี้ (มีช่วงเวลาที่ตลาดเปิดทำการคือ ตี4วันจันทร์ – ตี4วันเสาร์ โดยประมาณ)

วิธีการใช้งาน
    เมื่อตั้งค่า  Time Zone  เรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ ปฏิทินค่าเงิน  ไว้คอยเช็คเพื่อความปลอดภัยของนักลงทุนเอง โดยการใช้งาน โดยวิธีการใช้งานก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยสังเกตได้จากภาพตารางปฏิทิน ดังต่อไปนี้

   
โดยส่วนที่วงกลมสีแดงคือ “ ปฏิทิน ” ข้อมูลของข่าวที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงิน โดยยกตัวอย่าง ตารางข่าวของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 มาเป็นตัวอย่าง  โดยหลักการใช้งาน มีดังต่อไปนี้
     1.  เวลาของข่าวค่าเงินที่จะเกิดขึ้น จะอยู่ซ้ายมือสุด จะอยู่ช่องสี่เหลี่ยมสีเขียว โดยจะเกิด ตามเวลาในประเทศไทยหรือประเทศต่างๆ ตามที่เราได้ตั้งค่ามาแล้วส่วนที่ขึ้นว่า Tentative ความหมายคือไม่มีเวลาแน่นอนที่จะเกิด แต่จะคิดได้จาก ช่วงเวลาที่จะเกิด อย่างเช่นในภาพ Tentative 3ตัวแรกจะออกมาก่อนข่าวของค่าเงิน AUD แสดงว่าในข่าวของค่าเงิน NZD ที่ไม่มีเวลาบอกที่ชัดเจนจะประกาศผลตัวเลขในช่วงเช้ามืด ประมาณ 4.00 น. – 7.30 น. (ความน่าจะเป็นที่ข่าวจะออกในเวลาดังกล่าว) 
    2.  ข่าวที่ส่งผลต่อค่าเงิน จะ อยู่ในช่องสี่เหลี่ยมสีแดง โดยภาพ จะระบุไว้ว่า ส่งผลต่อค่าเงิน NZD, AUD, GBP, EUR, CAD, และ USD ตามลำดับ เวลา
     3.  ความรุนแรงของข่าวและเนื้อหาของข่าวแต่ละค่าเงินจะอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน โดยความแรงของข่าวนั้นจะแบ่งข่าวเป็น 3 ระดับ คือ
ระดับธรรมดา จะเป็นสัญลักษณ์แฟ้มสีเหลือง, ระดับกลางจะเป็นสัญลักษณ์แฟ้มสีส้ม, ระดับรุนแรงมากจะเป็นแฟ้มสีแดง ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่แล้วการเช็คข่าว ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือแฟ้มสีแดง เพราะ ค่าเงินจะค่อนข้างแปรปรวนมาก หรือเพื่อความปลอดภัยของพอร์ต

“ควรเลี่ยงเทรด” หรือ “ทำกำไร”  
ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักเทรด
     ในส่วนของเนื้อหาของข่าวนั้นแต่ละแฟ้มจะมีคำอธิบายความหมายของข้อมูลข่าวที่จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินเป็นอย่างไร โดยศึกษาข่าวที่ส่งผลกระทบได้ที่แฟ้มที่อยู่ด้านขวาสุดของช่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน (หากคลิกที่แฟ้มข่าวจะมีข้อมูลข่าวย้อนหลังให้ดูด้วย)
     4. ค่าการพยากรณ์ข่าวและ ข้อมูลกราฟ และสิ่งที่จะเกิดขึ้น อยู่ในช่องสี่เหลี่ยมสีดำ เป็นข้อมูลที่นักวิเคราะห์ตลาดค่าเงิน ได้ทำการวิเคราะห์ ว่าค่าเงินจะเกิดขึ้นไปในทิศทางไหน ใช้ประกอบในการตัดสินใจสำหรับบุคคลที่จะแสวงหาผลกำไรจากความแปรปรวนของตลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ข้อมูลที่นักวิเคราะห์ ได้วิเคราะห์ออกมานั้น ไม่ได้มีความน่าเชื่อถือถึง 100% เพราะ ในตลาด Forex ไม่มีอะไรที่มันจริงแท้ 100% อย่างแน่นอน เพียงแต่ เป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเท่านั้นเอง

www.Investing.com
    โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้เว็บไซต์ forexfactory.com เป็นหลักในการตรวจสอบข่าวสารต่าง ๆ เพื่อช่วยการการตัดสินใจในการเทรด สำหรับบทความนี้ทางทีมงานขอนำเว็บไซต์ investing.com มานำเสนอครับ โดยเว็บไซต์นี้มีเนื้อหาต่าง ๆ มากมาย แต่เราจะหยิบยกการตรวจสอบเทรน จากการนำค่าเฉลี่ยจาก indicators ต่าง ๆ มาช่วยให้เราตัดสินใจในการออก order หรือเปิดรัน EA ครับ

วิธีการใช้งาน
1. เข้าสู่เว็บไซต์ www.investing.com 
2. เลือก Technical -> Technical Summary (ผลสรุปการวิเคราะห์เชิงเทคนิค)


3.  เลือกที่ Costumize

4.  ตั้งค่าตามนี้
    4.1 เลือก TF ที่ไม่สูงเกินไป และเรียงกันไป อย่ากระโดดข้าม เช่น TF M1 M5 M15 M30 เป็นต้น
    4.2 เลือกค่าเงินหลัก 1 ค่า แล้วจับคู่กับค่าเงินอื่นๆทั้งหมด เช่น เลือก USD ให้เราเลือกค่าเงินที่ USD จับคู่ด้วยทั้งหมด
    4.3 หลังจากนั้นกด Apply


5.  เว็บไซต์ จะแสดงค่าเฉลี่ยการคำนวนของ Indicators ต่าง ๆ ออกมาเป็นทิศทาง 5 แบบ คือ
     Neutral = คู่เงินนั้นมีโอกาศเป็น Sideway หรือไม่มีเทรนชัดเจน
     Buy = คู่เงินนั้นมีโอกาศที่จะเป็นเทรนขาขึ้น
     Sell = คู่เงินนั้นมีโอกาศที่จะเป็นเทรนขาลง
     Strong Buy = คู่เงินนั้นอยู่ในช่วงที่เป็นเทรนขาขึ้นมาก
     Strong Sell = คู่เงินนั้นมีอยู่ในช่วงที่เป็นเทรนขาลงมาก
ให้เราดูคู่เงินที่เราต้องการเทรดหากผลวิเคราะห์ออกมาในทิศทางเดียวกับที่เราวิเคราะห์ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เรามีความมั่นใจในการตัดสินใจในการเทรดมากขึ้น


หมายเหตุ : อธิบายเพิ่มเติม ซึ่งตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะเป็นผลสรุปในการวิเคราะห์เชิงเทคนิคแต่ก็ยังมีตัวเลขเชิงเทคนิคที่เป็รส่วนย่อยที่สำคัญๆ อยู่อีกโดยจะอธิบายเพิ่มเติมได้ดังภาพต่อไปนี้


จากภาพอธิบายต่อได้ คือ 
1. Technical Summary คือ ผลสรุปการวิเคราะห์เชิงเทคนิค
2. Technical Analysis คือ การวิเคราะห์เชิงเทคนิค
3. Pivot Point คือ จุดที่เป็นแนวรับแนวต้านที่สำคัญๆ 
4. Moving Average คือ ผลสรุปของเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆ มากมายโดยจะแสดงผลเป็นเส้น SMA5, SMA10, SMA20, SMA50, SMA100, และ SMA200 
5. Indicators คือ ผลสรุปของ Indicators ต่างๆ โดยจะแสดงผลของค่า Indicators มากมายซึ่งประกอบไปด้วย RIS, Stochastic, MACD, ADX, Williams %R, CCI, ATR, High Low, Ultimate Oscillator, ROC, และ Bull/Bear Power 
สรุป : โดยส่วนใหญ่การแสดงผลของรูปตัวอย่างจะมีตัวเลขบ่งบอกที่มาอยู่ตลอด แต่ผู้ใช้งานอาจจะงงซะส่วนใหญ่ แต่ทางเวปไซต์จะมีการแสดงผลในรูปแบบของสัญญาณออกมาเป็น Buy (แข็ง) และ Sell (อ่อน) หรือ Neutral (กลาง) เป็นต้น

ข้อแนะนำ : ยังคงมีเวปไซต์เกี่ยวกับ Forex อีกมากมายซึ่งจะมอบทั้งความรู้และเทคนิคต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อตัวนักเทรดเอง ซึ่งทางผู้จัดทำได้ยกตัวอย่างมาเพียง 2 เวปไซต์เท่านั้นเพื่อเป็นพื้นฐานเกี่ยวกับแวดวงของข่าวต่างๆ เกี่ยวกับสกุลเงินหลักของเวปไซต์ www.Forexfactory.com และเวปไซต์ที่บอกถึงการวิเคราะห์เชิงเทคนิคอย่าง www.Invester.com ทั้งนี้ยังมีเวปไซต์อีกมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศที่รวบรวมบทวิเคราะห์เชิงเทคนิครายวัน รายสัปดาห์และเศรษฐกิจแต่ละประเทศอยู่มากมายที่รอให้นักเทรดศึกษาค้นคว้าแหล่งความรู้อื่นๆ ด้วยตัวเอง